คำพิพากษาฎีกาที่ 17881/2555
นางอัจฉริย์ อู่โชตนานันท์ โจทก์
บริษัทนอร์ธเวสต์แอร์ไลน์ จำกัด ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน จำเลย
เรื่อง 1. เขียนใบลาออกและลงชื่อสละสิทธิ เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความฟ้องไม่ได้
2. เมื่อลาออกจะมีสิทธิได้ค่าวันหยุดพักผ่อนประจำปีไหม
คำพิพากษาฎีกาที่ 17881/2555
นางอัจฉริย์ อู่โชตนานันท์ โจทก์
บริษัทนอร์ธเวสต์แอร์ไลน์ จำกัด ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน จำเลย
เรื่อง 1. เขียนใบลาออกและลงชื่อสละสิทธิ เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความฟ้องไม่ได้
2. เมื่อลาออกจะมีสิทธิได้ค่าวันหยุดพักผ่อนประจำปีไหม
1. โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการผู้มีอำนาจทำการแทนในประเทศไทย ได้ใช้วาจาหลอกหลวงให้โจทก์เขียนใบลาออกจากการทำงาน โดยโจทก์ได้หลงเชื่อ การแสดงเจตนาของโจทก์เป็นการแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉล โจทก์ขอยกเลิกการแสดงเจตนาดังกล่าว ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรับโจทก์กลับเข้าทำงานหากไม่สามารถรับโจทก์กลับเข้าทำงานได้ให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันออกหนังสือรับรองการมีสิทธิได้รับตั๋วเครื่องบิน ไปกลับกรุงเทพ -สหรัฐอเมริกา
2. จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 2 จัดการกิจการทั่วไปของจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้รับมอบอำนาจ จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว โจทก์ลาออกเพราะความสมัครใจประกอบกับโจทก์ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นในขณะปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นการผิดข้อบังคับการทำงาน โจทก์มีเจตนาลาออกจากการเป็นพนักงานของจำเลยที่ 1 โดยเขียนใบลาออกและทำหนังสือขอสละสิทธิต่าง ๆ ให้ไว้ จำเลยทั้งสองไม่อาจรับโจทก์ เข้าทำงานได้ส่วนตั๋วเครื่องบินตามที่โจทก์เรียกร้องนั้นผู้มีสิทธิได้รับคือพนักงานที่ยังคงทำงานอยู่เท่านั้นขอให้ยกฟ้อง
3. ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
4. โจทก์อุทธรณ์ประการแรกว่าโจทก์เขียนใบลาออกโดยเชื่อว่าเมื่อโจทก์ลาออกแล้วเพื่อนร่วมงานที่มีปัญหากับโจทก์ต้องออกจากงานด้วยเช่นกัน และเมื่อโจทก์ลาออกแล้วโจทก์จะได้รับสิทธิอย่างไรบ้างจึงยอมลาออกโดยถูกหลอกลวงให้เขียนใบลาออก การที่โจทก์อุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
5. ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ประการสุดท้ายว่าโจทก์มีสิทธิได้รับตั๋วเครื่องบินและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ได้รับขาดไป 6,045.57 บาทนั้น เห็นว่า เมื่อโจทก์แสดงเจตนาลาออกจากการเป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 และโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในหนังสือปลดหนี้และสละสิทธิโดยสละสิทธิเรียกร้องใด ๆ อีก อันมีลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ ละฝ่ายได้ยอมสละนั้น ระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับตั๋วเครื่องบินหรือเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 อีก อุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
รวบรวมโดยนายไพบูลย์ ธรรมสถิตย์มั่น
www.paiboonniti.com