คำพิพากษาฎีกาที่  15080/2555

นางดาวรุ่ง  ห่วงห้อย     โจทก์

บริษัทไทยซันเอะ  จำกัด     จำเลย

เรื่อง1.  จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์ลักทรัพย์  และได้ข่มขู่ให้เขียนใบลาออก  ถ้าไม่ลาออกจะถูกดำเนินคดีอาญา  โจทก์ยอมเขียนใบลาออกให้  ใบลาออกมีผลใช้บังคับได้หรือไม่

คำพิพากษาฎีกาที่  15080/2555

นางดาวรุ่ง  ห่วงห้อย     โจทก์

บริษัทไทยซันเอะ  จำกัด     จำเลย

เรื่อง 1.  จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์ลักทรัพย์  และได้ข่มขู่ให้เขียนใบลาออก  ถ้าไม่ลาออกจะถูกดำเนินคดีอาญา  โจทก์ยอมเขียนใบลาออกให้  ใบลาออกมีผลใช้บังคับได้หรือไม่

1 .โจทก์ฟ้องว่า  โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย  ตำแหน่งสุดท้ายเป็นพนักงานแผนกจัดส่งสินค้า  ต่อมาทรัพย์สินในแผนกจัดส่งสินค้าสูญหาย  จำเลยสงสัยว่าโจทก์เป็น

ผู้ลักทรัพย์ดังกล่าว  แต่จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ยอมให้โจทก์เข้าทำงานและบังคับให้โจทก์เขียนใบลาออก  เป็นการเลิกจ้างโดยที่โจทก์ไม่ได้กระทำความผิดและไม่เป็นธรรม  ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย  สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า  และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

2. จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า  จำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์  แต่โจทก์ลาออกเองเพราะสินค้า ที่อยู่ในความรับผิดชอบของโจทก์สูญหายไป  โจทก์ยอมรับว่าได้เอาสินค้าของจำเลยไป  2  รายการ  โจทก์จึงยอมลงลายมือชื่อในหนังสือลาออก  การที่โจทก์เอาสินค้าของจำเลยไป  2  รายการ  ถือว่าเป็นฝ่ายผิดสัญญาจ้างแรงงาน  ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย  ขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์รับผิดชดใช้ค่าเสียหาย

2.1  โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า  โจทก์ไม่ได้ลักทรัพย์ของจำเลย  และไม่ได้กระทำผิดสัญญาจ้างแรงงาน

3.  ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว   พิพากษายกฟ้องโจทก์ และยกฟ้องแย้งของจำเลย

4. โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า  โจทก์ลงลายมือชื่อในหนังสือลาออกโดยถูกข่มขู่ว่าหากไม่ลาออกจะถูกดำเนินคดีอาญา  หนังสือลาออกใช้บังคับได้หรือไม่  เห็นว่า  แม้พฤติการณ์จะยังไม่ปรากฏชัดแจ้งว่าโจทก์กระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้างก็ตาม  การที่นายสมานและจ่าสิบเอกไสวซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยพูดว่าหากโจทก์ไม่ยอมลาออกและชดใช้ค่าเสียหายก็จะดำเนินคดีอาญาแก่โจทก์  โจทก์จึงลงลายมือชื่อในหนังสือลาออก  เป็นการที่นายสมานและจ่าสิบเอกไสวเชื่อว่าโจทก์เป็นคนที่ลักทรัพย์ของจำเลยไป  และเชื่อว่าตนเองซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยมีสิทธิทำได้ตามกฎหมาย  ถือได้ว่าเป็นการข่มขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม  หาใช่เป็นการข่มขู่อันมิชอบด้วยกฎหมายที่จะทำให้หนังสือลาออกของโจทก์  เป็นโมฆียะไม่  หนังสือลาออกมีผลใช้บังคับได้  อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

5   พิพากษายืน  

                                                   

 รวบรวมโดยนายไพบูลย์  ธรรมสถิตย์มั่น 

www.paiboonniti.com