นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงาน และลดอัตราค่าจ้างมีการปรับลดหน่วยงานทั้งบริษัท ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เป็นการเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่ – ทนายแรงงาน ไพบูลย์นิติ ที่ปรึกษากฎหมายแรงงาน

คำพิพากษาที่ 2124/2555

นายบรรลือ  เสียงสนั่น                                    โจทก์

บริษัทไดมอนลีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด             จำเลย

เรื่อง   1.นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงาน และลดอัตราค่าจ้างมีการปรับลดหน่วยงานทั้งบริษัท ไม่ได้เลือกปฏิบัติ  เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เป็นการเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่ และนายจ้างต้องรับกลับเข้าทำงานตามเดิม  หรือชดใช้ค่าเสียหายตามฟ้องหรือไม่

1.โจทก์ฟ้องว่า เป็นลูกจ้างตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2546 ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 43,000 บาท มีตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2547 จำเลยเลิกจ้างโจทก์อ้างเหตุเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารโดยลดอัตรากำลังและยุบเลิกตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่โจทก์ดำรงตำแหน่งอยู่ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

2.จำเลยให้การว่า จำเลยดำเนินการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานและลดอัตรากำลัง โดยปรับลดหน่วยงานจากแผนกหรือฝ่ายเหลือเพียงระดับงานเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ง่ายต่อการควบคุมดูแลทางด้านการบริหารงานและลดการทุจริต ไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะฝ่ายจัดซื้อที่โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้จัดการอยู่

3.ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

4.โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

5.ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ปัญหาต้องวินิจฉัยว่า เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ และจำเลยต้องรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมหรือชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามคำฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัย เห็นได้ว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์สืบเนื่องมาจากจำเลยปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานทั้งหมด ย่อมถือได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมีเหตุอันสมควร ไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 49 จึงไม่มีหน้าที่ต้องรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมหรือชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามคำฟ้อง

6.พิพากษายืน

รวบรวมโดยนายไพบูลย์  ธรรมสถิตย์มั่น (บ.1/43)
www.paiboonniti.com