คำพิพากษาที่ 5462/2555

นายสังคม    ไก่แก้ว                                                             โจทก์

บริษัท เคอรี่ ดีสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด                    จำเลย

เรื่อง 1. การโยกย้ายตำแหน่งพนักงาน และหรือการไม่มอบหมายงานให้ลูกจ้างทำ เป็นอำนาจการบริหารที่นายจ้างทำได้จริงแต่ต้องเป็นการกระทำโดยสุจริต ไม่เป็นที่เสียหายแก่ลูกจ้าง และต้องไม่เป็นการกลั่นแกล้งด้วย

1.โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย ตำแหน่งพนักงานขับรถ ได้รับค่าจ้างเดือนละ 7,570 บาท และได้ค่าเที่ยวตามจำนวนเที่ยวที่ขับรถในแต่ละเดือน ประมาณเดือนละ 9,000 บาท เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2548 จำเลยได้มีคำสั่งย้ายโจทก์มาทำงานตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่ง ได้รับเงินเดือนละ 8,620 บาท แต่ไม่มีเงินค่าเที่ยว เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างและทำให้โจทก์มีรายได้ลดลงเดือนละ ประมาณ 7,950 บาท เป็นผลเสียแก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่สั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่งและให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งหนักงานขับรถตามเดิม

2.จำเลยให้การว่า จำเลยย้ายตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ เป็นอำนาจบริหารที่จำเลยกระทำได้ จำเลยมีคำสั่งย้ายโจทก์จากตำแหน่งพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าเทรลเลอร์ไปทำงานตำแหน่งรักษาการผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่ง โดยจำเลยยังคงให้สภาพการจ้างและสวัสดิการแก่โจทก์เหมือนเดิม การย้ายตำแหน่งดังกล่าวมิได้เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ เพราะตำแหน่งใหม่เป็นตำแหน่งสูงกว่าเดิม มีโอกาสก้าวหน้าว่า เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับการทำงานว่าด้วยการโยกย้ายตำแหน่งและตามสัญญาจ้างแรงงาน และเป็นอำนาจทางบริหารของจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างที่จะพิจารณาวางคนเข้าทำงานให้เหมาะสมกับงานเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งได้เพิ่มค่าจ้างและเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่วนเงินค่าเที่ยวเมื่อโจทก์ไม่ได้ทำหน้าที่ขับรถบรรทุกสินค้าเทรลเลอร์จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว โจทก์เคยร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548 ว่าจำเลยกระทำการอันไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้สอบพยานและวินิจฉัยแล้วว่าจำเลยไม่ได้กลั่นแกล้งและไม่ได้กระทำการอันไม่เป็นธรรมแก่โจทก์และยกคำร้องของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

3.ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งจำเลยที่สั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายขนส่ง และให้จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าโดยให้ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์หรือเงินเพิ่มหรือสวัสดิการเหมือนเดิมทั้งนี้ ตั้งแต่วันมีคำพิพากษาเป็นต้นไป

4.จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
5.ศาลฎีกาประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นผู้ร่วมก่อตั้งสหภาพแรงงานขับรถขนส่งสินค้าในสถานประกอบการของจำเลยและเป็นประธานสหภาพแรงงานกับกรรมการลูกจ้าง 6 เดือน    เมื่อจำเลยย้ายโจทก์แล้วกลับมิได้มอบหมายงานที่มุ่งหมายแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานให้ทำแต่เป็นการย้ายเพราะไม่พอใจที่โจทก์มีส่วนร่วมในการก่อตั้งสหภาพแรงงานและเป็นกรรมการลูกจ้าง ซึ่งแม้ตำแหน่งที่โจทก์ย้ายไปโจทก์จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นแต่เมื่อเปรียบเทียบค่าจ้างและเงินค่าอาหารในตำแหน่งใหม่กับค่าจ้างและผลประโยชน์หรือเงินเพิ่มที่โจทก์ได้รับในตำแหน่งเดิมจะแตกต่างกันมากและทำให้โจทก์ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ลดลงเพื่อไม่ให้โจทก์ทนทำงานเป็นลูกจ้างต่อไปได้ การย้ายเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์

6.พิพากษายืน

รวบรวมโดยนายไพบูลย์  ธรรมสถิตย์มั่น (บ.1/43)
www.paiboonniti.com