สรุปขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคดีแรงงาน

1.กระบวนการพิจารณาคดีแรงงานใช้ระบบไต่สวน(ไม่ใช่ระบบกล่าวหา)

2.องค์คณะในการพิจารณาพิพากษาคดีแรงงาน มีลักษณะเป็นไตรภาคี
-ผู้พิพากษาจากข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม
-ผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้าง
-ผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้าง

3.การฟ้องคดีแรงงาน ไม่ต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียม เหมือนคดีแพ่งในศาลยุติธรรมทั่วไป

4.คดีแรงงานเข้าสู่การพิจารณาได้ 2 ทาง
-ผู้เสียหายปรึกษาและมอบหมายแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทน
-ผู้เสียหายเข้าพบปรึกษาขอคำแนะนำการฟ้องคดีกับนิติกรของศาลแรงงาน

5.ประเด็นปัญหาที่มักนำมาฟ้องร้องเรียกความเป็นธรรมต่อศาลแรงงาน
-ฟ้องเรียกค่าชดเชยหรือค่าชดเชยพิเศษ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.118,ม.122
-ฟ้องเรียกเงินค้ำประกันการทำงานจากนายจ้าง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.10
-ฟ้องเรียกร้องค่าจ้าง,ค่าล่วงเวลา,ค่าทำงานในวันหยุด,ค่าล่วงเวลาในวันหยุดพร้อมดอกเบี้ย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.9 และมาตรา 70
-ฟ้องเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน ม.125
-ฟ้องให้ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.123,ม.125
-ฟ้องเรียกสินจ้างแทนบอกกล่าวล่วงหน้า ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.17,ป.พ.พ. ม.582,ม.583
-ฟ้องให้ปฏิบัติตามข้อตกลง เกี่ยวกับสภาพการจ้าง ตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ม.10,ม.12
-ร้องขออนุญาตลงโทษหรือเลิกจ้างกรรมการลูกจ้าง ตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ม..52
-ฟ้องขอให้เพิกถอนหรือให้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ในเรื่องการกระทำ  อันไม่เป็นธรรม ตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ม.121,ม.124
-ฟ้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน ม.49

6.เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแรงงาน และศาลรับฟ้องแล้ว
-คดีจะถูกส่งไปสู่ศูนย์ไกล่เกลี่ย เพื่อนัดวันพิจารณาไกล่เกลี่ยก่อน
-หากไม่สามารถเจรจาเพื่อหาข้อยุติได้ คดีจะถูกส่งไปสู่กระบวนการพิจารณาของศาลโดยองค์คณะ ผู้พิพากษา
-องค์คณะผู้พิพากษาจะไกล่เกลี่ยอีกครั้ง

-หากยังไม่สามารถบรรลุข้อยุติ ศาลจะพิจารณากำหนดประเด็นและนัดสืบพยาน ซึ่งศาลอาจจะ กำหนดให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำพยานเข้าสืบก่อนหรือหลังก็ได้ แล้วแต่กรณี

7.ถึงวันพิจารณาคดี ถ้าฝ่ายจำเลยทราบนัดแล้วไม่มาศาล ศาลจะพิจารณาคดีของโจทก์ โดยให้โจทก์      สืบพยานไปฝ่ายเดียว แล้วมีคำพิพากษา

8.ถึงวันพิจารณาคดี ถ้าฝ่ายโจทก์ทราบนัดแล้วไม่มาศาล ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

9.คู่ความอาจจะยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้นำคดีเข้าสู่การพิจารณาใหม่ภายใน 7 วัน หากมีเหตุผลที่ศาลรับฟังได้ ศาลจะอนุญาต ให้นำคดีกลับมาพิจารณาใหม่

10.ก่อนคดีจะมีคำพิพากษา คู่ความสามารถเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อหาข้อยุติ หรือคู่ความสามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้โอนคดี ไปพิจารณาศาลแรงงานอื่น หากศาลที่จะโอนไปยอมรับ หากไม่ยอมรับต้องส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางเป็นผู้พิจารณา การพิจารณาของอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางถือเป็นที่สุด

11.การสืบพยานคดีแรงงาน ศาลจะเป็นผู้ซักถามพยาน หากทนายความทั้งสองฝ่าย ประสงค์จะถามพยานต้องขอและได้รับอนุญาตจากศาลก่อน

12.ผู้พิพากษาสมทบ หากมีข้อสงสัยบางประเด็นและต้องการจะซักถามพยาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงสมบูรณ์ก็ขออนุญาตต่อผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีนั้น

13.คดีแรงงานเป็นคดีแพ่ง แต่บางประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานม.144,ม.159 เช่น
-การค้างจ่ายค่าจ้าง
-การค้างชำระเงินค่าประกันการทำงาน
-การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน(และไม่ฟ้องเพิกถอนคำสั่ง)

14.หากมีคำพิพากษาแล้วไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา อาจถูกบังคับคดีด้วยการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน

15.การอุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลแรงงาน สามารถอุทธรณ์ได้เฉพาะในข้อกฎหมายเท่านั้น ถ้าเป็นประเด็นข้อเท็จจริง ไม่สามารถอุทธรณ์ได้ และต้องอุทธรณ์คำพิพากษาภายใน 15 วัน หลังทราบคำพิพากษา (พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน ม.54,ม.58

————————————————————————————————————————————————————