คำพิพากษาฎีกาที่ 7797-7807/2553

บริษัทครีเอทีฟ จูซ จีวัน จำกัด จำเลย
นางสาวพรรณทิพา บุญยั่งยืน ที่ 1 กับพวกรวม 11 คน โจทก์

เรื่อง 1. การเลิกจ้างโจทก์ โดยอ้างโจทก์มีอัตราค่าจ้างสูง การเลิกจ้างเพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง การดำเนินธุรกิจ โดยโจทก์ไม่มีความผิด เป็นการเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่

2. จำเลยไม่สามารถนำสืบได้ว่า จำเลยไม่มีงานให้โจทก์ทำหรือหากไม่เลิกจ้างโจทก์ จะทำให้จำเลยขาดทุนแต่อย่างใด การเลิกจ้างโจทก์จึงเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

1. โจทก์ทั้งสิบเอ็ดฟ้องเป็นใจความทำนองเดียวกันว่า จำเลยมีหนังสือเลิกจ้างโจทก์ทั้งสิบเอ็ด ให้มีผลเลิกจ้างนับแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2551 โดยอ้างว่าโจทก์ทั้งสิบเอ็ดมีอัตราค่าจ้างสูง และเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โจทก์ทั้งสิบเอ็ดไม่มีความผิด การเลิกจ้างดังกล่าวไม่เป็นธรรม

2. จำเลยทุกสำนวนให้การว่า โจทก์ทั้งสิบเอ็ดไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยไม่ได้ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรและไม่มีกำหนดเวลาจ้างที่แน่นอน จำเลยเลิกจ้างโดยมีเหตุอันสมควร เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม จำเลยประกอบกิจการให้บริการเป็นตัวแทนโฆษณา ช่วงกลางปี 2550 ถึงกลางปี 2551 เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จำเลยไม่มีงานให้โจทก์ ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นเดิมลาออกและขายหุ้นไป จำเลยจึงต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้าง โจทก์ทำงานไม่ดี ผิดพลาด ไม่ดำเนินการภายในกำหนด ขาดงาน มาทำงานสาย จำเลยจ่ายเงินค่าบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนให้แก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ดครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว และโจทก็ทั้งสิบเอ็ดยังได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โจทก์ทั้งสิบเอ็ดจึงไม่ได้รับความเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

3. ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมให้แก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ด

4. จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

5. ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เหตุที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสิบเอ็ดเนื่องจากจำเลยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างแบบเก่ามาใช้แบบใหม่ จำเลยกำไรน้อยลง แต่ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกำไรน้อยลงจำนวนมากและไม่มีงานให้โจทก์ทั้งสิบเอ็ดทำ เพื่อผลประโยชน์ของจำเลยที่จะให้ได้กำไรเหมือนเดิมจึงเลิกจ้างโจทก์ทั้งสิบเอ็ด จึงเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และมิได้นำสืบให้ชัดแจ้งถึงเรื่องที่ไม่มีงานให้โจทก์ทั้งสิบเอ็ดทำ จึงไม่มีน้ำหนักรับฟังว่ากำไรน้อยลงจำนวนมากและไม่มีงานให้โจทก์ทั้งสิบเอ็ดทำ คำพิพากษาศาลแรงงานกลางดังกล่าวจึงเป็นคำพิพากษาที่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 51 วรรคหนึ่ง อุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

การเลิกจ้างโจทก์ทั้งสิบเอ็ดจึงเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมและศาลแรงงานกลางกำหนดให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ดโดยคำนึงถึงอายุ ระยะเวลาทำงาน ความเดือดร้อนของโจทก์ทั้งสิบเอ็ดเมื่อถูกเลิกจ้างมูลเหตุแห่งการเลิกจ้างและค่าชดเชยที่โจทก์ทั้งสิบเอ็ดมีสิทธิได้รับ

พิพากษายืน

รวบรวมโดยนายไพบูลย์ ธรรมสถิตย์มั่น (บ.1/43)
www.paiboonniti.com